นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ และประธานเครือข่าย ทนายคลายทุกข์ เปิดเผยว่า นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลชื่อดัง พร้อมกับมารดา ได้เดินทางมาปรึกษาเรื่องของคดี เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 16 มีนาคม จากการที่ติดเงินลูกค้ากว่า 100 ราย จากการทำกล่องสุ่มและเปิดบิลจำนวนหลายล้าน ว่าจะสามารถหาทางออกเรื่องนี้ได้อย่างไรบ้าง

โดยทนายเดชา ได้เปิดเผยว่า นารา ได้เดินทางมาที่สำนักงานทนายเมื่อคืนวันที่ 15 มีนาคม เพื่อปรึกษาทางกฎหมายและขอให้เป็นทนายความ เนื่องจากเจ้าตัวอยากจะเคลียร์เงินที่ติดค้างกับผู้เสียหายจากการทำกล่องสุ่มและเปิดบิลกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายหลักล้าน โดยกล่าวว่าไม่ได้มีเจตนาอยากจะมาแจ้งความหรือเอาผิดใคร เพียงแค่ต้องการที่จะเอาเงินคืนให้กับลูกค้า ซึ่งตอนนี้เจอปัญหาคือไม่สามารถไลฟ์สดขายของได้ เนื่องจากว่าเมื่อไลฟ์สดขายของ ก็จะมีคนเข้ามาด่าจำนวนมาก ทำให้ออเดอร์จากหลักพันตกเหลือเพียงแค่หลักร้อยเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวมีเจตนาที่อยากจะทำมาหากินเพื่อนำเงินไปคืนลูกค้าตามกำลังของตัวเองที่สามารถทำได้ แต่อาจจะไม่สามารถคืนเต็มจำนวนได้ภายในครั้งเดียว ต้องทยอยคืน จึงได้มาปรึกษาว่าทางกฎหมายจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง

• Netflix: บิ๊กฮิตช่วยย้อนกลับการสูญเสียสมาชิก

• Jaguar Land Rover ลดกำลังการผลิตที่โรงงานในสหราชอาณาจักรเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิป

ทนายเดชา กล่าวอีกว่า ตนจึงให้คำแนะนำไปว่า “ไปเอาเงินเขามา ก็ต้องเอาเงินเขาไปคืน” โดยในตอนนี้ยังไม่มีใครไปแจ้งความดำเนินคดีกับนารา ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวก็กำลังรวบรวมจำนวนเงินว่าจะต้องคืนลูกค้าทั้งหมดเท่าไหร่ โดยหลังจากนี้ต้องมาดูกันต่อว่าจะต้องทำอย่างไรได้บ้าง ในเบื้องต้นอาจจะต้องไปที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งเรื่องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยืนยันว่าตัวเองจะไม่ได้หลบหนีอย่างแน่นอน

ทนายเดชา กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีประเด็นว่าได้โอนบ้านไปให้คนอื่นแล้ว นารายืนยันว่าไม่ได้โอน เนื่องจากบ้านยังเป็นหนี้ของธนาคารอยู่ ทั้งนี้ ตนได้ให้คำปรึกษากับนาราไปด้วยว่า เราติดเงินเขาเราไม่ควรไปท้าให้เขาไปฟ้องหรือแจ้งความ แต่สิ่งที่ควรทำคือต้องหาเงินมาคืนและขอโทษเขา อย่างไรก็ตาม ท่าทีของนาราที่มาปรึกษาตนนั้น มีท่าทีที่เครียดและร้องไห้ทั้งแม่ทั้งลูก พร้อมอยากจะขอโอกาสจากสังคมให้ได้ทำมาหากินเพื่อหาเงินมาคืนให้กับลูกค้า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ bm-pilates.com